ปรับเสียงเครื่องช่วยฟังอย่างไร ถึงจะเข้าใจตรงกัน
- 14 พ.ย. 2564
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 29 ม.ค. 2565

มีหลายคนเลยที่บอกผมว่าเอาเครื่องช่วยฟังไปปรับเสียงมาหลายรอบแล้วแต่ก็ยังไม่ดีสักที สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตุได้จากที่ได้คุยกับหลาย ๆ ท่านคือ เราอธิบายปัญหาของเราได้ไม่ค่อยชัดเจน
แต่อาจจะเป็นเพราะว่า ภาษาเราไม่มี adjective ในการอธิบายคุณลักษณะของเสียงที่ได้ยินให้สามารถเข้าใจตรงกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เชื่อลองนึกถึงเสียงของคนในบ้านหรือใครที่เราคุยด้วยบ่อย ๆ แล้วลองอธิบายว่าเสียงของเขาเป็นอย่างไร
คิดว่าคำอธิบายของเราจะสามารถทำให้คนอื่นเข้าใจและจินตนาการถึงเสียงของคน ๆ นั้นในแบบที่เราได้ยินได้ไหมครับ
แล้วถ้าเป็นการอธิบายปัญหาเกี่ยวกับเสียงตอนที่เราใช้เครื่องช่วยฟังในสถานการณ์ต่าง ๆ ล่ะครับ จะเป็นอย่างไร ไม่ง่ายเลยจริงไหมครับ

ถ้าอย่างนั้นจะเป็นไปได้อย่างไรที่คนปรับเครื่องช่วยฟังให้เราจะสามารถปรับให้พอดีอย่างที่เราต้องการได้
ยิ่งไปกว่านั้น การเปลี่ยนความเข้าใจในปัญหาที่ได้จากการอธิบายของเราให้เป็น acoustic parameters สำหรับปรับเครื่องช่วยฟังนั้นก็อีกเรื่องนึงเลย
ผมจึงทำตารางที่คิดว่าน่าจะช่วยทำให้เราทุกคนเข้าใจตรงกันในเรื่องของเสียง และระบุเป็นพารามิเตอร์สำหรับการปรับเครื่องช่วยฟังแบบพร้อมใช้เอาไว้ ใช้เวลาพิจารณาอยู่พักนึงก็พอจะแบ่งหมวดหมู่ของสิ่งที่จำเป็นและมีประโยชน์ในการทำให้เข้าใจกันเรื่องเสียงมากขึ้น
*หากต้องการตารางนี้ทักแชทมานะครับ เผื่อช่วยกันปรับให้ดีขึ้นด้วยครับ
อันที่จริงในการจะแก้ไขปัญหาไม่ว่าจะปัญหาใด มันมีอยู่ไม่กี่เรื่องที่เราต้องระบุให้ชัดถูกไหมครับ
1.ปัญหาคืออะไร 2. เกิดขึ้นที่ไหน 3. แล้วปัญหามันเป็นยังไง
เริ่มจากฝั่งของคนปรับก่อนนะครับ
ในโลกของการปรับเสียงเครื่องช่วยฟังมันมีอยู่แค่ 2 คำถามเท่านั้นที่สำคัญ
คำถามแรก เสียงอะไร
คำถามที่สอง มันมากไปหรือน้อยไป
แต่สิ่งที่ยากคือ เสียงอะไรนี่ล่ะ เราไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไรบนหน้าจอคอมเวลาที่เราปรับเครื่องช่วยฟัง ดังนั้นเราต้องมามองจากมุมมองของเครื่องช่วยฟังว่า
ถ้าเราเป็นเครื่องช่วยฟังเราจะมองเห็นโลกแบบไหน?
สำหรับเครื่องช่วยฟังแล้ว เสียงบนโลกนี้มีอยู่แค่ 3 แบบ
Low intensity (<50dBSPL)
Speech intensity (65dBSPL +/-)
High intensity (>80dBSPL)
ไม่ว่าจะเป็นเสียงอะไรก็ตามเครื่องช่วยฟังรู้แค่ว่า มันดัง มันไม่ดัง มันพอดี แค่นี้จริง ๆ แต่ความซับซ้อนมันคือ ช่องสัญญานของเครื่องช่วยฟัง ที่เหมือนคนยืนเข้าแถวรอฟังเสียงโดยที่แต่ละคนถูกแบ่งหน้าที่ให้รับผิดชอบเสียงในช่วงความถี่ที่แตกต่างกัน เครื่องช่วยฟังที่มีช่องสัญญานเยอะก็แปลว่ามีคนยืนเข้าแถวอยู่เยอะเท่านั้นเอง โดยหน้าที่ของแต่ละคนคือ เวลาที่ได้ยินเสียงในช่วงความถี่ที่ตัวเองรับผิดชอบ จะต้องตะโกนบอกเราว่าได้ยินอะไรมาโดยต้องคอยฟังว่าเสียงที่ได้ยินมันดังแค่ไหนแล้วตะโกนให้ได้ความดังตามที่ตัวเองถูกกำหนดไว้ เช่น ถ้าได้ยินเสียงเบา ๆ ให้ตะโกนดังปานกลาง แต่ถ้าได้ยินเสียงดังปานกลางให้ตะโกนดัง ๆ แต่ถ้าเสียงที่ได้ยินมันดังอยู่แล้ว ยืนเฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไร
หน้าที่ของเราในการปรับเครื่องช่วยฟังคือ การบอกให้คนที่ยืนเข้าแถวแต่ละคนว่าต้องตะโกนดัง-เบาแค่ไหน หรือเมื่อไหร่ที่ไม่ต้องตะโกนเลย ซึ่งเราสามารถเอาคำอธิบายของผู้ใช้มาเทียบกับตารางที่ผมทำเอาไว้ได้ครับ

สำหรับคนใช้เครื่องช่วยฟัง
ถ้าเราต้องอธิบายให้คนอื่นฟังว่าเราได้ยินอะไร เราสามารถใช้การตั้งคำถามตามลำดับ
เสียงอะไร > อยากฟัง/ไม่ได้อยากฟัง > แล้วมันดังไปหรือเบาไป > ตอนไหน
ยกตัวอย่างเช่น
“เสียงคนพูดกับเราโดยเฉพาะเสียงผู้ชายมันจะดังไปมากเลยเวลาที่เขาพูดใกล้ ๆ หูเรา แต่ส่วนมากจะเป็นเวลาที่ออกไปทานข้าวกลางวันนอกออฟฟิศ สงสัยเสียงรถมันดังเขาเลยต้องมาพูดใกล้ ๆ ปกติในออฟฟิศก็ไม่มีปัญหาเพราะเค้าไม่ได้พูดใกล้”
หากเราตัดบางคำออกจากประโยคนี้ พารามิเตอร์ในการปรับเครื่องช่วยฟังก็เปลี่ยนตามไปด้วย ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการไปปรับเครื่องคือ
เราสองคนเข้าใจร่วมกันว่าอย่างไร จริงไหมครับ
เพิ่มเติม
ผมเข้าใจว่ามันอาจจะดูแปลก ๆ ในตอนแรกหากต้องอธิบายอะไรแบบนี้ แต่ถ้าพยายามใช้ adjective ในภาษาไทยเพื่ออธิบายจะยิ่งแปลกเข้าไปอีก (ผมเคยพยายามมาแล้ว) ทั้งนี้สิ่งที่ผมต้องการบอกจริง ๆ คือ เวลาที่เราไปปรับเครื่องเราควรอธิบายปัญหาให้ชัดเจน เพื่อให้คนปรับเครื่องช่วยฟังสามารถเข้าใจสิ่งที่เราได้ยินจริง ๆ และสามารถแก้ไขปัญหาให้เราได้อย่างตรงจุด
อย่างปัญหาข้างต้นสามารถแก้ไขได้โดย
ปรับ compression ratio ของ input >80dB ที่ 500Hz freq band ลงสัก 2 dB หรืออาจจะเช็ค in-situ UCL ในช่วงความถี่นั้นเพื่อไม่ให้เครื่องช่วยฟังขยายเสียงมากเกินไปเฉพาะตรงนั้นก็ได้ครับ
*In-situ UCL คือการหาระดับความดังที่ทำให้เรารู้สึกว่า “ดังเกินไปละ” เพียงแต่ต้องปล่อยเสียงด้วยเครื่องช่วยฟังหรือใช้ probe microphone วางไว้หน้าแก้วหูเพื่อวัด ถ้าจะปล่อยเสียงด้วย headphones
สำหรับใครที่อยากปรับเสียงเครื่องช่วยฟังด้วยตัวเอง ทดลองใช้เครื่องช่วยฟังยิ้มได้นะคับ
Comments